
จัดเรียงลำดับดูว่าสินค้าอะไรบ้างที่ขายดีที่สุด
จัดเรียงลำดับสินค้าที่มีอยู่ว่าสินค้าอะไรบ้างที่ขายดีที่สุด และสินค้าอะไรบ้างที่ขายดีน้อยที่สุดที่เป็นตัวฉุดค่าเฉลี่ยของบริษัท เช่น หากมีสินค้าอยู่ 10 ชนิด ก็เรียงลำดับจากขายดีสุด -> ไปสู่ขายดีน้อยที่สุด

โยกงบการตลาด และเวลาการทำงาน
เมื่อเจอแล้วว่าสินค้าไหนขายดีที่สุดและขายดีน้อยที่สุด ก็ให้พุ่งงบการตลาดและเวลาทำงานไปสู่สินค้าที่ขายดี โดยไม่ต้องหาสินค้า หรือลงทุนเพิ่ม เช่น ปกติเราทำคอนเทนต์เดือนละ 10 ชิ้น + งบเดือนละแสนให้สินค้า 10 ชนิด โดยบริหารแบบค่าเฉลี่ย 1 สินค้า / 1 คอนเทนต์ / 1 หมื่นบาท

คุณสามารถเปลี่ยนเป็นใช้คอนเทนต์ 9 ชิ้น กับสินค้าที่ขายดี 3 ลำดับแรกจะเปลี่ยนเป็น
1 สินค้า / 3 คอนเทนต์ / 3 หมื่นบาท
ส่วนงบอีก 1 หมื่นบาทและคอนเทนต์อีกชิ้นค่อยเฉลี่ยกันในสินค้าที่ขายได้น้อย

พัฒนาผลลัพธ์ทางการตลาด
การพัฒนาผลลัพธ์ทางการตลาดเป็นการดูฟีดแบคว่าเมื่อปรับไปแล้วผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้าง วิธีการเพิ่มยอดขายที่ทำไปได้ผลอย่างไร โดยมีวิธีตรวจสอบดังนี้

โทรสอบถามลูกค้าสม่ำเสมอ ว่าทำไมเขาถึงซื้อของเรา โดยใช้หลักการเดียวกับข้อ 1 คือ ถามจากลูกค้าที่ซื้อมากที่สุดก่อน แล้วค่อยๆไล่ลำดับลงมา
ปรับปรุงคอนเทนต์การสื่อสาร ให้ตรงกับจริตของลูกค้า
ดูผลลัพธ์ของโฆษณา เช่น Cost per message ว่าลดลงหรือไม่ พร้อมปรับลงให้ลงกับโฆษณาที่มียอดขายดีกว่า